มูลนิธิปวีณาฯ มีข่าวดี!! “น้องอ้วน”
เด็กชายอ้วน 200 กิโลกรัม ตอนนี้น้ำหนักลดลงไปแล้ว 25 กิโลกรัม
แพทย์เก่งดูแลด้านโภชนาการและควบคุมอาหารดียิ่ง ด้านลุงน้องอ้วนเผยยอดบริจาคล่าสุด
5 พ.ค.64 จำนวน 1,704,323.44 บาท วันนี้ปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว
วันที่ 6 พ.ค.64 นางปวีณา หงสกุล
ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสำเริง
แจ่มประแดง ลุงแท้ๆ ของน้องอ้วน ว่า ตอนนี้ "น้องอ้วน"
น้ำหนักตัวลดลงไปแล้วกว่า 25 กก.
หลังจากที่นางปวีณาช่วยประสานหน่วยราชการจังหวัดนครสวรรค์ และน้องอ้วนได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ตั้งแต่วันที่
22 เม.ย.64 จากวันนั้นน้องอ้วนมีน้ำหนักตัวประมาณ 200 กก.ตอนนี้เหลือ 175 กก.แล้ว
โดยแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ให้การดูแลอย่างดีเรื่องโภชนาการและควบคุมอาหาร
แม้น้องอ้วนบางครั้งจะมีอาการหงุดหงิดเวลาไม่ได้รับประทานอาหารตามใจบ้างก็ตาม
แต่ก็ไม่เป็นปัญหา
ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มที่ดีในการลดน้ำหนักต่อไปเพื่อจะทำให้สุขภาพของน้องอ้วนดีขึ้น
ขณะที่นายสำเริง ลุงน้องอ้วน ได้กล่าวว่า
ล่าสุดยอดเงินที่บริจาคถึงวันที่ 5 พ.ค.64 เข้ามาช่วยเหลือน้องอ้วนอยู่ที่
1,704,323.44 บาท
ซึ่งขณะนี้ได้ปิดรับบริจาคบัญชีดังกล่าวไปแล้วและเพื่อความโปร่งใส่ในการเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาและการดำเนินชีวิตของน้องอ้วนจึงได้เปิดเป็นบัญชีกองทุน
โดยมีกรรมการ 4 ฝ่าย คือ 1.ปลัดอาวุธโส 2.เทศบาลตำบลบ้านแดน 3.ผู้ใหญ่บ้าน
และ4.ญาติน้องอ้วน ซึ่งในการเบิกจ่ายเงินจำนวนนี้แต่ละครั้งจะมีการพิจารณาร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับน้องอ้วนตามวัตถุประสงค์ของผู้ใจบุญที่บริจาคเข้ามา
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวขอขอบคุณประชาชนที่บริจาคเงินมาช่วยเหลือน้องอ้วน
และขอบคุณ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าฯ
นครสวรรค์ เหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ นางอรุณี เต็งสุวรรณ์
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ นางสาวกมลพัฒน์ นนตรี
หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ นครสวรรค์ นายอำเภอบรรพตพิสัย สาธารณสุขอำเภอบรรพตพิสัย
แม่บ้านมหาดไทย จ.นครสวรรค์ กอ.รมน. จว.นครสวรรค์ รอง ผอ.รพ.บรรพตพิสัย
นายกเทศมนตรี ศูนย์การศึกษาพิเศษ ผู้นำชุมชน
และสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้การช่วยเหลือน้องอ้วนให้มีสุขภาพกาย สุขภาพจิต
มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยมูลนิธิปวีณาฯ
จะติดตามร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและญาติในการดูแลน้องอ้วน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น