เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 1 มี.ค.64 ที่ โรงพยาบาลปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และการฉีดวัคซีนเข็มแรกของจังหวัดปทุมธานี โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นายแพทย์ประสิทธิ์ มานะเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นางพรอัปสร นิลจินดา ประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของประเทศไทย และจังหวัดปทุมธานี ได้ตรวจพบการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 จากกรณีชาวพม่า ซึ่งมีอาชีพรับจ้างในแผงขายมะนาว/ขายผัก ที่ตลาดพรพัฒน์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีนั้น จังหวัดปทุมธานี ได้ค้นหาเชิงรุก พบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปยังพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยตลาดพรพัฒน์แห่งนี้ และการให้วัคซีนก็เป็นแนวทางในการป้องกันการแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
จังหวัดปทุมธานี ได้รับการจัดสรรวัคซีนให้แก่ชาวปทุมธานีในระยะแรก จำนวน 8,000 โดส โดยครอบครัวประชาชนกลุ่มแรกของจังหวัด จำนวน 4,000 คน โดยมุ่งไป 4 กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า กลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้สัมผัสผู้ป่วย กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว และกลุ่มประชาชนทั่วไปรวมทั้งกลุ่มแรงงาน ซึ่งได้รับวัคซีนมาถึงจังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และได้จัดโครงการการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และการฉีดวัคซีนเข็มแรกของจังหวัดปทุมธานี ขึ้น ในวันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2564 เวลา 08.00-09.00 น. ณ ห้องประชุมบงกชรัศมิ์ ชั้น 8 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลปทุมธานี อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
โดยนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี รับวัคซีนเข็มแรกของจังหวัดปทุมธานี พร้อมคณะผู้บริหาร ในการจัดงานครั้งนี้นำร่องฉีดวัคซีนให้ประชาชน กลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ในจำนวน 200 คนแรก และจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจนครบ 4,000 คนแรก ของจังหวัดปทุมธานี และประชาชนจะใช้ line official หมอพร้อม ในการติดตามเฝ้าระวังอาการผลข้างเคียงภายหลังจากฉีดวัคซีน และแจ้งเตือนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข้มที่ 2 ซึ่งห่างออกไป 3 สัปดาห์ โดยการดำเนินงานครั้งนี่มุ่งหวังให้ประชาชนชาวปทุมธานีมีความปลอดภัยจากการแพร่กระจายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกัน คือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือเป็นประจำ
ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วัคซีนที่นำมาให้นั้นต้องทำการฉีดให้บุคลกรทางการแพทย์ก่อน บุคลกรทางสาธารณสุข และบุคคลเสี่ยงที่ต้องไปให้การบริการกับผู้ป่วย โดยการเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้นมีขั้นตอนหลายอย่างมาก ซึ่งต้องทำให้เป็นไปตามขั้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการฉีดนั้นปลอดภัยที่สุด และต้องปฏิบัติตามขั้นตอน โดยวัคซีนนั้นจะต้องนำไปฉีดให้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งในขั้นตอนตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการทดลองระบบด้วยว่า ขั้นตอนในการฉีดจะยุ่งยากมากไหม หากยุ่งยากแล้วทำให้ช้าก็จะต้องทำการตัดขั้นตอนออกบ้างเพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยการฉีดชุดแรกๆนั้นทางรัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในชาติ ถึงแม้จะเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีความเสียงทางรัฐบาลก็ต้องทำการฉีดให้แก่พวกเขาด้วย เพื่อไม่ได้เป็นพาหะนำเชื้อไปแพร่กระจายต่อ และขอย้ำกับพี้องประชาชนว่าวัคซีนที่นำมาฉีดนั้น รัฐบาลฉีดให้ประชาชนฟรีไม่มีความใช้จ่ายแต่อย่างใด หากพบผู้กระทำผิดมีการเรียกรับผลประโยชน์ในการฉีดวัคซีนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น