จุดแรกที่บริเวณสามแยกบางบอน ผู้ต้องหาลงรถแท็กซี่เดินไปซื้อมีดกับปืนพลาสติกจากร้านค้าราคา 20 บาท แล้วเดินไปกินข้าวในตลาด จากนั้นข้ามถนนไปนั่งรถกะป้อสี่ล้อเล็กไปลงที่ปั้มซัสโก้ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในปั้ม แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ถามพนักงานเพื่อขอซื้อหนังสือพิมพ์นั่งอ่านรอเวลา
จากนั้นเดินไปที่ธนาคาร ธกส. เข้าไปคุยกับรปภ.ทำทีหาตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินก่อนเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วชักปืนพลาสติกออกมาข่มขู่พนักงาน และรื้อแผงอะคลิลิคแบบใสที่ธนาคารติดตั้งไว้ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 หน้าเค้าเตอร์ออกแล้วกระโดดข้ามไปกวาดเงินสดจากลิ้นใส่ถุงพลาสติกและยัดใส่กระเป๋าสะพายก่อนวิ่งออกจากธนาคารข้ามสะพานลอยตรงไปทาง รพ.บางประกอก 8 แล้วข้ามสะพานลอยตรงบริเวณต่างระดับเอกชัยแล้วทิ้งปืนปลอมลงไปด้านล่างจากนั้นเดินลงมานั่งรถตู้โดยสารหลบหนีไปกระทั่งถูกจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้
นายไพบูลย์ผู้ต้องหาอ้างว่าทำอาชีพรับจ้างส่วนที่ก่อเหตุไปนั้นเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบหลังทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวส่งศาลฝากขังทันที
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทราบว่าตกงานก่อนหน้านี้ขับรถแท็กซี่ แต่ไม่พอใช้จ่ายจึงลงมือก่อเหตุโดยมาดูลาดเลาไม่นานและที่เลือกธนาคารดังกล่าวเห็นว่ามีคนใช้บริการไม่มาก เงินที่ได้มาได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัวประมาณ 1 แสนบาทผู้ต้ิองหายืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการพนันหรือยาเสพติด ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การอยู่ระหว่างการขยายผล
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหามีประวัติคดีการพนันและคดียักยอกทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี โดยตำรวจติดตามเงินคืนมาได้ 3 แสนกว่าบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น